1.ประวัติของคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบัน
เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาหลายร้อยปี
เริ่มจากการสร้างอุปกรณ์ที่ไม่มีกลไกซับซ้อน จนกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์มีศักยภาพสูงที่นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ในขณะนี้
เพื่อนำมาช่วยทำงานด้านการคำนวณประมวลผล
และสามาถนำไปใช้ในการควบคุมการผลิตงานทางด้านอุตสาหกรรมในโรงงานต่างๆ
2.ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ประเภทอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยคำสั่ง ชุดคำสั่ง
หรือโปรแกรมต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบ
รวมทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือมีศักยภาพสูงในการคำนวณประมวลผลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข
รูปภาพ ตัวอักษร และเสียง ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างกว้างขวาง
3.ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ที่สามารถทานได้ครบถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพต้องมีองค์ประกอบสำคัญ
ดังนี้
คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นเละสัมผัสได้
เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น
จำแนกหน้าที่ของฮาร์ดแวร์ต่างๆสามารถแบ่งออกเป็นส่วนสำคัญ
5ส่วนคือ
1.หน่วยรับข้อมูลเข้า(Input Unit)เป็นวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาเชื่อมต่อทำหน้าที่ป้อนสัญญาณเข้าสู่ระบบเพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามการทั้งวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวข้อง
เช่น แป้นอักขระ(keyboard)เมาส์(mouse)ไมโครโฟน(Microphone)ฯลฯ
2.หน่วยประมวลผลกลาง(Central Processing Unit: CPU)ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์
รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
3.หน่วยความจำ(Memory Unit)ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูล
เพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง
และเก็บผลลัพธ์ที่ได้มาจากการประมวลผลแล้ว เพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
4.หน่วยแสดงผล(Output Unit)ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลหรือผ่านการคำนวณแล้ว
5.อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ(Peripheral Equipment)เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์
เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นเช่น โมเด็ม แผงวงจรเชื่อมต่อ
เครือข่าย เป็นต้น
4.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ที่เราได้รับจากการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งาน สามารถแบ่งได้ดังนี้
1.มีความเร็วในการทำงานสูง
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบันสามารถประมวลผลคำสั่งในช่วงเวลา1วินาทีได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านคำสั่งจำใช้ในงานคำนวณต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
เช่น การฝากถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม เป็นต้น
2.มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
สามารถทำงานได้ตลอด24ชั่วโมง เป็นสัปดาห์ หรือเป็นปี
โอกาสเครื่องเสียน้อยมาก ใช้เทนกำลังคนได้มากมาย
3.มีความถูกต้องแม่นยำตามโปรแกรมที่สั่งงานและข้อมูลที่ใช้
4.เก็บข้อมูลได้มาก
ไม่ต้องใช้เอกสารและตู้เก็บ
5.สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
5.ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง
กรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำการใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด
เช่น การตรวจสอบข้อมูลประชาชนจากระบบทะเบียนราษฎร์ ของสำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย
ระบบเวชระเบียนของโรงพยาบาล ระบบภาษี ระบบทะเบียนการค้า
ระบบทะเบียนประวัติอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติฯลฯ
ถ้าต้องการทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้ สามารถตรวจสอบได้โดยการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
6.องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ4ส่วน ดังนี้
1.ฮาร์ดแวร์ (hardware) หรือส่วนเครื่อง
2.ซอฟต์แวร์ (software) หรือส่วนชุดคำสั่ง
3.ข้อมูล (data)
4.บุคลากร (people)
ฮาร์ดแวร์ (hardware)
อุปกรณ์.ฮาร์ดแวร์ (hardware)หมายถึงตัวเครื่องและอุปกรณ์ส่วนต่างๆที่เราสามารถสัมผัสและจับต้องได้
ฮาร์ดแวร์จะประกอบด้วยส่วนสำคัญ4ส่วนดังนี้
1.ส่วนประมวลผล(processor)
2.ส่วนความจำ
(memory)
3.อุปกรณ์รับเข้าและส่งออก
(inpot-outpot devices)
4.อุปกรณ์หน่วยเก็บข้อมูล
(storage device)
หน่วยประมวลผลกลาง
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) หรือเรียกคำย่อว่า ซีพียู มีความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์2อย่างด้วยกันคือ
1.ตัวชิป
(chip) ที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องเครื่องที่มีซีพียูบรรจุอยู่ความหมายส่วนที่2ถ้ามองทางด้านเทคนิกแล้วจะเป็นความหมายที่ไม่ถูกต้อง
เนื่องจากตัวซีพียูเป็นชิปคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เหมือนส่วนสมองของระบบคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำ
เราสามารถแยกประเภทของหน่วยความจำ (memory)ได้ดังนี้
1.หน่วยความจำหลัก
2.หน่วยความจำสำรอง
3.หน่วยเก็บข้อมูล
1.หน่วยความจำหลัก (Main
memory)
คือหน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆ
ของเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยชุดความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง
ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และสามารถนำออกมาใช้ในการประมวลผลในภายหลัง
โดยซีพียูทำหน้าที่ในการนำข้อมูลเข้าและนำออกจากหน่วยความจำ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นต้องใช้พื้นที่ของหน่วยความจำในการทำงาประมวลผลและเก็บข้อมูล
ขนาดความจุของหน่วยความจำสามารถคำนวณจากค่าจำนวนพื้นที่ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูล
จำนวนพื้นที่คือจำนวนข้อมูลและขนาดของโปรแกรมที่สามารถเก็บได้สูงสุดในขณะทำงานถ้าพื้นที่ของหน่วยความจำมีมากจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้นด้วย
หน่วยความจำหลักแบ่งออกเป็น/ประเภทคือ
1.1หน่วยความจำแบบ “แรม” (Random Access Memory)
1.2หน่วยความจำแบบ
“รอม” (Read Only Memory)
1.1หน่วยความจำแบบ
“แรม” (Random Access Memory)
หน่วยความจำแรมเป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล
ข้อมูลหรือแฟ้มข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงาน ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำจะอยู่ได้นานจนกว่าจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนส่งให้กับเครื่อง
เมื่อปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับข้อมูลที่ถูกเก็บไว้จะถูกลบหายไป
เราเรียกว่าหน่วยความจำประเภทนี้ว่า หน่วยความจำแบบลบเลือนได้ (volatile memory)
1.2หน่วยความจำแบบ “รอม” (Read Only Memory)
เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในการเก็บโปรแกรมหรือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนให้กับวงจร
ย้อมให้ซีพียูอ่านข้อมูลหรือโปรแกรมไปใช้งานอย่างเดียว
ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้ได้โดยง่าย ต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย
ส่วนใหญ่ใช้ในการเก็บโปรแกรมควบคุม เราเรียกหน่วยความจำประเภทนี้ว่า (nonvolatile memory)
2.หน่วยความจำรอง (secondary storage)
หน่วยความจำชนิดนี้มีไว้สำหรับสำรองหรือทำงานกับข้อมูลและโปรแกรมขนาดใหญ่เนื่องจากขนาดของหน่วยความจำหลักมีจำกัด
หน่วยความจำสำรองสามารถเก็บไว้ได้หลายแบบ เช่น แผ่นบันทึก (floppy disk) จานบันทึกแบบแข็ง (hard disk) แผ่นซีดีรอม (CD-ROM) และจานแสงแม่เหล็กเป็นต้น
จานบันทึกข้อมูล
ตัวจานบันทึกแบบแข็ง
(hard disk)ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กตั้งแต่หนึ่งแผ่นจนถึงหลายแผ่น
และเครื่องขับจาน (Hard
Disk Drive)
เป็นส่วนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ มีมอเตอร์ทำหน้าที่หมุนแผ่นจานแม่เหล็กด้วยความเร็วสูง
มีหัวแม่เหล็กทำหน้าที่อ่านและเขียนข้อมูลต่างๆลงบนผิวของแผ่นดังกล่าวตามคำสั่งของโปรแกรมหรือผู้ปฏิบัติงานต้องากรโดยหัวอ่านและเขียนไม่ได้สัมผัสแผ่นโดยตรงแต่เคลื่อนที่ผ่านแผ่นไปเท่านั้น
แผ่นบันทึกหรือฟลอปปี้ดิสก์
แผ่นบันทึกข้อมูล
(floppy disk) เป็นหน่วยความจำรอง
ตัวแผ่นทำด้วยพลาสติกชนิดอ่อน
มาตรฐานที่นิยมใช้ในขนาดนี้จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง3.5นิ้ว ความจุข้อมูล 1.44เมกะไบต์
บรรจุในซองพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันกับแผ่นบันทึกชนิดพิเศษสามารถเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากถึง200เมกะไบต์หรือมากกว่านั้น เช่น ซิปดิสก์ (Zip disk) แจ็ซดิสก์ (Jaz disk)เป็นต้น
ซีดีรอม
ซีดี
ย่อมาจากคอมแพกดิสก์ และรอมเป็นคำเดียวกับหน่วยความจำแบบรอมคือคำว่า Read Only Memory แผ่นซีดีรอม (CD-ROM) หรือแผ่นซีดี เป็นแผ่นบันทึกข้อมูลที่ให้คอมพิวเตอร์อ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ออกมาใช้
ไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงไปได้ ใช้อ่านอย่างเดียว
ลักษณะคล้ายแผ่นซีดีเพลงใช้ระบบเสียงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูลที่เก็บเป็นได้ทั้งตัวอักษร
ตัวเลข เสียง และภาพก็ได้ มีความจุประมาณ650 เมกะไบต์หรือมีความจุมากกว่าแผ่นเก็บจ้อมูลประมาณ450เท่า หรือสามารถเก็บข้อมูลจากหนังสือประมาณ 500 เล่ม
ดีวีดี
ดีวีดี (DVD หรือ digital versatile disk) เป็นแผ่นซีดีที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
โดยแผ่นดีวีดีสามารถเก็บข้อมูลได้ไม่ต่ำกว่า 4.7จิกะไบต์
คาดหมายว่าแผ่นดีวีดีจะถูกนำมาใช้แทนซีดี-รอม
เลเชอร์ดิสก์หรือแม้แต่วิดีโอเทป
จอภาพ
จอภาพ (monitor)เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลผลลัพธ์ที่เกิดจากการประมวลผลจากเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลได้ทั้งตัวหนังสือ
ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว โดยทั่วไปนิยมใช้แบบจอภาพสี
สามารถแสดงระดับความแต่ต่างของสีตั้งแต่ 16,256,65,536 และ
16,177,216 สีความละเอียดของจุดภาพเรียกว่าพิกเซล
(pixel)
ในการแสดงผลที่ปรากฏบนหน้าจอภาพขึ้นอยู่กับขนาดแมทริกซ์ของการแสดง เช่น 640x480,800x600,1024x768และ1280x1024 จุด
แผงแป้นอักขระ
แผงแป้นอักขระหรือแป้นพิมพ์
(keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์
สามารถรับเข้าข้อมูลจากการกดแป้นพิมพ์เพื่อส่งต่อไปให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
แป้นพิมพ์ที่นิยมใช้จะมี 101แป้นและแยกแป้นอักขระและตัวเลขออกจากกัน
ส่วนบนจะเป็นแป้นคำสั่งพิเศษให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
เมาส์
เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตัวหนู
ส่วนของสายสัญญาณจากตัวอุปกรณ์ที่ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์มีลักษณะคล้ายส่วนหางหนู
เราใช้เมาส์ในการควบคุมตัวชี้ (Pointer)ที่ปรากฏอยู่บนจอภาพให้สามารถเลื่อนไปสู่ตำแหน่งต่างๆที่ต้องการได้โดยง่ายสามมารถใช้ร่วมกับโปรแกรมในการควบคุมคำสั่งก็ได้
จะมีปุ่มควบคุม2ปุ่ม ด้วยกันโดยทำหน้าที่แตกต่างกันดังนี้
1.ปุ่มซ้ายมือถ้ากดหนึ่งครั้งหมายถึงการเลือกและถ้ากดสองครั้งติดต่อกันหมายถึงสั่งให้โปรแกรมหรือสั่งรูปที่เลือกทำงาน
2.ปุ่มขวามือถ้ากดให้เสดงฟังก์ชันพิเศษโดยใช้ตัวชี้เป็นตัวเลือกฟังก์ชันที่ต้องการได้
บุคลากร (people)
บุคลากรคอมพิวเตอร์
(Peopleware)
หมายถึงกลุ่มบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และโปรแกรม เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) เป็นผู้นำทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
นักวิเคราะห์ระบบ (System
Analyst)เป็นผู้วิเคราะห์ปัญหาและระบบงานที่มีอยู่แล้วเพื่อแก้ปัญหาและออกแบบระบบใหม่ให้ดีกว่าเดิม
ผู้บริหารระบบ (System
Administrator)เป็นผู้ควบคุมจัดการระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
บุคลากรคอมพิวเตอร์
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์เพราะแต่เดิมนั้นคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ใช้ยาก
บุคลากรที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์จะต้องมีความรู้ในระดับผู้ชำนาญการทีเดียว
แต่ในปัจจุบัน การใช้งานคอมพิวเตอร์มีหลายระดับ
ในระดับพื้นฐานนั้นการใช้งานจะง่านมาก
เพราะทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สมัยใหม่ได้รับการออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน
เรียกว่า “เป็นมิตรต่อผู้ใช้”(User
friendly)
บุคลากรคอมพิวเตอร์ที่สำคัญได้แก่
ผู้ดูแลระบบ (System Administrator)
นักวิเคราะห์ระบบ
(System Analyst)
นักเขียนโปรแกรม
(Programmer)
วิศวกรเครือข่าย
(Network Engineer)
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับสูง
(Super User)
เนื้อหาดีค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ลบ